Page 5 - 05
P. 5
PDPA
พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ธัญวรัตม์ สดคมข า
ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 จะเป็นวันเริ่มใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็น
กฎหมายว่าด้วยการให้สิทธิกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สร้างมาตรฐานการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัย
และน าไปใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ตามค ายินยอมที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต
พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ Personal Data Protection Act (PDPA) ่มีบทบาทส าคัญใน
การคุ้มครองและให้สิทธิกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้นกับบุคคลหรือนิติ
บุคคลในการเก็บข้อมูล รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการใช้ข้อมูล หรือเพื่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่
จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ หากผู้ใดหรือองค์กรใดไม่ปฏิบัติตามนั้น จะมีโทษทั้งทางแพ่ง โทษทางอาญา
และโทษทางปกครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้การคุ้มครองของ PDPA มีดังนี้
• ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล / เบอร์โทรศัพท์ อีเมลส่วนตัว ที่อยู่ปัจจุบัน / เลขบัตร
ประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขใบอนุญาตขับขี่ / ข้อมูลทางการศึกษา / ข้อมูลทางการเงิน / วันเดือน
ปีเกิด และข้อมูลอื่น ๆ บนอินเทอร์เน็ตที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น Username / password, Cookies
IP address, GPS Location เป็นต้น
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ / ความคิดเห็นทางการเมือง /ความเชื่อ
ในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา / ประวัติอาชญากรรม / ข้อมูลด้านสุขภาพ ความพิการ เช่น โรคประจ าตัว
การฉีดวัคซีน ใบรับรองแพทย์ และข้อมูลชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ แบบจ าลองใบหน้า ข้อมูลม่านตา เป็น
ต้น
ในส่วนของบทลงโทษกรณีกระท าความผิด พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA นั้น แบ่งเป็น
3 ประเภท คือ 1) บทลงโทษทางแพ่ง 2) บทลงโทษทางอาญา และ 3) บทลงโทษทางปกครอง
1. บทลงโทษทางแพ่ง เกิดจากการกระท าความผิดทางแพ่ง คือ มีการท าให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย เช่น
เสียหายทางร่างกาย เสียหายทางชื่อเสียง เสียหายทางสิทธิของบุคคลนั้น ๆ เป็นต้น ผู้กระท าความผิดจึง
จะต้องชดใช้ค่าเสียหาย/ค่าสินไหม เป็นจ านวนเงิน
2. บทลงโทษทางอาญา เกิดจากมีการกระท าหรือมีความประพฤติที่รัฐมองว่าคุกคาม หรือเป็นภัยต่อ
ทรัพย์สิน สุขภาพ ความปลอดภัยและศีลธรรมของประชาชนและส่วนรวม ซึ่งการลงโทษผู้กระท าความผิด
ประเภทนี้ โดยโทษทางอาญามี 5 อย่างคือ ประหารชีวิต จ าคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สิน
3. โทษทางปกครอง เกิดจากการกระท าความผิดที่ฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตาม
บทบัญญัติที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องกระท า แต่ยังไม่ร้ายแรงถึงระดับความผิดทางอาญาที่ส่งผลกระทบต่อ
ความสงบเรียบร้อยของสังคมและส่วนรวม