Page 3 - 02
P. 3
สายพันธุ์ Covid-19 ที่ระบาดในประเทศไทย
ฉันท์ชนิต เกตุน้อย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในประเทศไทยและในหลายประเทศทั่วโลก
เชื้อไวรัสโควิด 19 ที่แพร่ระบาดอยู่นั้นมีหลากหลายสายพันธ์มาก ๆ โดยพบสายพันธ์โควิด 19 ที่กลายพันธ์ุไป
แล้วจ านวน 11 สายพันธ์ทั่วโลก ในส่วนของประเทศไทยก็พบเชื้อไวรัสโควิดที่ระบาดในประเทศหลากหลาย
สายพันธุ์เช่นกัน ดังนี้
1. สายพันธุ์ดั้งเดิม หรือ สายพันธุ์อู่ฮั่น (Serine) รหัสไวรัส: S
เป็นสายพันธ์แรกที่มีการระบาดในประเทศไทย พบครั้งแรกในไทยเดือนมกราคม 2563 อาการทั่วไป คือ มีไข้
ไอแห้ง อ่อนเพลีย หากมีอาการรุนแรงจะมีลักษณะหายใจล าบาก-หายใจถี่ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก สูญเสีย
ความสามารถในการพูดและเคลื่อนไหว
2. สายพันธุ์เบตา (Beta) รหัสไวรัส: B.1.351
เป็นสายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกา พบครั้งแรกในไทยเดือนมกราคม 2564 โดยสายพันธุ์เบตาจะมีการระบาดที่
รวดเร็ว แพร่เชื้อได้ไวขึ้น 50% ลดประสิทธิภาพแอนติบอดี้ ท าให้มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เจ็บคอ
ท้องเสีย ปวดศีรษะ ตาแดง รับรส-รับกลิ่นผิดปกติ และมีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนัง หรือนิ้วมือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี เมื่อ
โควิดลงปอด จะหายใจล าบาก หายใจถี่ มีเสมหะในปอด เจ็บหน้าอก
3. สายพันธุ์อัลฟา (Alpha) รหัสไวรัส: B.1.1.7
เป็นสายพันธุ์ที่เริ่มระบาดในโซนยุโรป พบครั้งแรกในไทยเดือนเมษายน 2564 เป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายง่าย
กว่าสายพันธุ์อื่น 40-70% อาการที่พบคือ มีไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย
ปวดตามร่างกายและศีรษะ และการรับรส-ได้รับกลิ่นผิดปกติ
4. สายพันธุ์เดลตา (Delta) รหัสไวรัส: B.1.617.2
เป็นสายพันธุ์ที่เริ่มระบาดจากประเทศอินเดีย พบครั้งแรกในไทยเดือนพฤษภาคม 2564 และเป็นสายพันธุ์หลัก
ที่ก าลังระบาดอยู่ในประเทศไทย เป็นสายพันธ์ที่มีอัตราแพร่เชื้อสูงกว่าสายพันธุ์อัลฟา ราว 60% อาการที่พบ
คือ ปวดศีรษะ เจ็บคอ น้ ามูกไหล เป็นไข้ ไอ จาม และในบางรายสูญเสียการได้กลิ่นและรับรส และอาจจะมี
อาการหายใจล าบาก อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือตามตัว คลื่นไส้หรืออาเจียน ท้องเสียร่วมด้วย